US94 Gloryland

US94 Gloryland มนต์ขลังค์ฟุตบอล แห่งยุค 90

US94 Gloryland ฟุตบอลโลก กับบทเพลงที่ยังตราตรึงใจ ตราบนานแสนนาน

US94 Gloryland ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ที่จัด 4 ปีครั้ง และสิ่งที่ควบคู่กันก็คือ บทเพลงประจำทัวร์นาเม้นต์ ในยุคสมัยนั้นบทเพลงจะช่วยสร้างมนต์ขลัง ทำให้นึกถึงห้วงเวลานั้นๆ ได้เสมอ และเมื่อนึกย้อนกลับไปในอดีต ทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลก คือรายการแข่งขันที่แฟนบอล และคนทั่วโลกรอคอย และติดตามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นทาง โทรทัศน์ ,วิทยุ ,หนังสือพิมพ์ รวมไปถึง หนังสือนิตยสาร ซึ่งสื่อสิ่งพิมพ์ในยุคนั้นมีบทบาทมาก ต่อสังคมในสมัยนั้น
เมื่อ 28 ปีที่แล้ว มนต์ขลัง กลิ่นอาย ในกระแส “เวิร์ลคัพฟีเวอร์” ที่มวลมนุษยชาติรอยคอยมา 4 ปี ในยุคสมัยนั้น ในการใช้ชีวิตแบบอนาล็อก อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ชีวิตในแต่ละวันนั้นผ่านไปอย่างช้าๆ ความทรงจำในสมัยนั้น ที่ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน ซึ่งเป็นเวลาที่ตรงกับการถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลกพอดี

US94 Gloryland

และในเวลาของประเทศไทยนั้น จะไปตรงกับเวลาช่วงเย็นของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 1994 หรือ ยูเอส 94
โดยทางแฟนบอล หรือคนไทยทั่วไป ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก กระแสเวิร์ลคัพฟีเวอร์ ที่ทุกคนในสมัยนั้นจะมานั่งพูดคุยกันเป็นทอล์ค อ๊อฟ เดอะ ทาว์น ถ้าใครไม่ได้ติดตาม ไม่รับรู้ข้อมูลข่าวสาร คนๆ จะดูเชยระเบิดในกลุ่มสนทนาเลยทันที

โดยในปีนั้นจากกระแส ฟุตบอลโลก ที่ทำให้คนไทยนั้นหันมาติดตามข่าวสาร จนไปถึงติดตามดูถ่ายทอดสดฟุตบอล โดยในปีนั้น โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แห่งประเทศไทย ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7, ช่อง 9, ช่อง 11 จะเป็นเมนหลัก ในการถ่ายทอดสด และถ้าพลาดไปในการดูถ่ายทอดสด

ก็ยังได้ไปติดตามทางช่วงของ ข่าวกีฬา ที่จะมี ไฮไลต์แต่ละคู่ ที่เตะกันไปแล้ว และยังมีสกู๊ปข่าว ที่มีการวิเคราะห์จังหวะการยิงประตู ซึ่งในสมัยนั้น ถือได้ว่า เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ทำให้ฟุตบอลดูน่าสนใจ มีกูรู นักข่าวกีฬา, นัดกีฬา,นักฟุตบอล รวมไปถึงเหล่าดารา มาทายผลฟุตบอลในแต่ละคู่ ก่อนลงสนาม เรียกได้ว่ากระแสฟุตบอลโลกนั้น ทำเอาสั่นสะเทือนไปทุกวงการเลยทีเดียว

US94 Gloryland การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 1994 ที่ สหรัฐอเมริกา

US94 Gloryland

นั้นเป็นเวลาที่แข่งกันส่วนใหญ่ จะอยู่ในช่วง ตี3 ตี5 จนถึง 7โมง, 8 โมงเช้า ตามเวาประเทศไทยนั้น ซึ่งจะตรงกับเวลาที่ตัวผมเอง และเด็กชั้นประถมในยุคนั้น ส่วนใหญ่จะตั้งใจตื่นมาดูการ์ตูน ในช่วงเช้า ก่อนไปโรงเรียน หรือยิ่งถ้าตรงกับ วันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ จะมีการ์ตูนยาว ไปจนถึงช่วงสายเลย

ซึ่งเป็นข่วงเวลาที่ตรงกันกับที่ ทางพ่อนั้นจะกำลังดูฟุตบอล และจะเป็นเรื่องยาก ที่เด็กๆ อย่างเราจะไปเปลี่ยนข่องเพื่อดูการ์ตูน หรือเป็นรอบคิวกับช่องที่เราดูการ์ตูนอยู่ประจำ นั้นรับหน้าที่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกพอดี

ดังนั้นก็เลยต้องจำใจนั่งดูฟุตบอลกับพ่อไปด้วยซะเลย การดูฟุตบอลของเด็กประถมคนนึงในตอนนั้น จะเป็นที่สนใจสิ่งแรกก็คือ

เสื้อทีม ชุดแข่งขันของแต่ละทีม ธงชาติ และแต่ละชาติใน 24 ทีมชาติ นั้นก็มีเอกลักษณ์ ที่ต่างกันไป เป็นสีสัน

อีก 1 สิ่งที่ทำให้ดูตื่นตาตื่นใจ ภาพการแข่งขัน แสงแดดที่สาดส่อง บรรยากาศยามบ่ายของการแข่งขันช่วงเย็นในหลายแมตช์ บรรยากาศภาพเหล่าแฟนบอล ที่พาเรซกันไปให้กำลังใจทีมรัก

ด้วยการแต่งตัวที่มีสีสันต์สะดุดตา เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชาติ

ทัวร์นาเม้นต์ศึก ฟุตบอลโลก 1994 ณ ดินแดนแห่งเสรีภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา

US94 Gloryland

นั้นมีเหล่าบรรดานักเตะระดับโลกหลายต่อหลายคน ติดทีมชาติเข้ามาทำผลงานเพื่อพาทีมชาติของเขานั้นให้ไปถึงฝั่งฝัน สไตล์การเล่นของนักเตะแต่ละคน รูปแบบการเล่นของแต่ละทีม มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง เป็นสิ่งหลักๆ ที่ทำให้เด็กสมัยนั้นเริ่มดูฟุตบอล นับจากนั้นมา
ในทัวร์นาเม้นต์ นี้นั้น มี ซุปเปอร์สตาร์ ดาวดัง หลายคนที่มารับใช้ชาติ ในฟุตบอลโลก ครั้งนี้ อาทิเช่น “เสือเตี้ย” ดิเอโก้ มาราโดน่า ดาวดังแห่งทัพ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนติน่า และยังมีดาวรุ่งพุ่งแรงในสมัยนั้น อย่าง กาเบรียล บาติสตูต้า, “ไอ้หนุ่มผมยาว” เอคานิโอ คานิคเกีย, เฟนันโด เรดอนโด้, ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เป็นต้น ซึ่ง “ทัพฟ้าขาว”

นั้นก็เป็นทีมเต็งแชมป์ จากกูรู และแฟนบอลทั่วไปต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ส่วนทางด้านทัพ “อินทรีย์เหล็ก” ทีมชาติเยอรมัน โดยการคุมทีมของ แบร์ตี้ โฟร์ค มีนักเตะชั้นนำหลายคนที่ค้าแข้งในลีกยุโรป อาทิเช่น โล่ธาร์ มัตเธอุส กัปตันซุปเปอร์แมน ของทีม “เจ้าฉลามขาว” เจอเก้น คลิ้นสมันน์ ,”ยอดคนแสนคม” โธมัส เฮสเลอร์, “เจ้าเป็ดน้อย” รูดี้ โฟร์เลอร์ เป็นต้น

และที่จะพูดถึงไม่ได้เลย คือทัพขุนพล “อัซซูรี่” ทีมชาติอิตาลี่ เป็นทีมมหาชนโดยแท้จริง ที่ถูกใจสาวๆ ในยุคนั้นมาก ด้วยหน้าตานักเตะที่คมเข้ม หล่อเหลา บวกกับฝีเท้าระดับเวิร์ลคลาส สไตล์การเล่นที่เล้าใจ นั้นเรียกความนิยมให้ ฟุตบอลโลก ครั้งนั้นได้มากโขเลยทีเดียว และนักเตะที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้เลย อย่าง “เจ้าเปียทองคำ” โรแบร์โต้ บาจโจ้ ,ดีโน่ บาจโจ้ 2 แข้งที่นามสกุลเหมือนกัน

แต่ไม่ได้เป็นญาติโกโหติกากันแต่อย่างใด ในทีมชาติอิตาลี่ ในยุคนั้นยังมี จูเซ็ปเป้ ซินญอรี่ ดาวรุ่งในตอนนั้นอย่าง เปาโล มัลดินี่ ผู้รักษาประตู จิอันลูก้า ปายูก้า สุดหนึบในยุคนั้น อีกทีมที่มาแรงในทัวร์เม้นต์นั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ นั้นไม่ได้อยู่ในสายตากูรู และเซียนบอลเลยด้วยซ้ำ

นั้นก็คือทัพ “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล นักเตะในชุดนั้น ประกอบไปด้วย โรมาริโอ้, เบเบโต้, ราย, เลโอนาโด้, บรังโก้ ซึ้งเป็นชุดที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว การเล่นของทีมชาติบราซิลชุดนั้นสมชื่อกับฉายา “แซมบ้า” ที่สุดชุดนึงเลยก็ว่าได้ ทั้งลีลา ท่วงท่า เทคนิคการเลี้ยงบอลหลบคู่ต่อสู้ และที่สำคัญคือ ลูกยิงไกล ที่เฉียบคมจะมาในยามที่ทีมต้องการประตู

สิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อความรู้สึก และเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำ

ณ ช่วงเวลานั้น คือบทเพลงประจำการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 1994 ได้แก่เพลง Gloryland ที่ได้ผสมผสานกลิ่นอาย การขับร้องแบบคณะประสานเสียง ซึ่งพวกเขานั้นก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และอลังการ จากผลงานการร้องของร็อกเกอร์​สตาร์ชื่อดัง “ดาริล ฮอลล์” และวงคณะประสานเสียง “Sounds of Blackness” ยิ่งทำให้บรรกาศในห้วงเวลานั้น ชั่งตราตรึงหัวใจ และเป็นที่น่าจดจำอย่างไม่มีวันลืม กับ บทความกีฬาที่น่าสนใจ

แคง เดอะ คองเคอเรอร์